จำหน่ายและติดตั้ง อุปกรณ์โซล่าเซลล์

Opening Hour
ติดต่อได้ตลอด 24 hr
Hotline
095-529-4569

ระบบ on grid กับ off grid ต่างกันอย่างไร เปรียบเทียบ

ระบบ on grid กับ off grid ต่างกันอย่างไร เปรียบเทียบ hybrid

การใช้แผงโซลาร์เซลล์เป็นพลังงานที่นิยมมากในปัจจุบัน เพื่อผลิตไฟฟ้าในครัวเรือนและธุรกิจ ระบบการใช้งานอาจแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ระ บบOn Grid และระ บบOff Grid ซึ่งแต่ละระบบมีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกัน ผู้สนใจติดตั้งจึงควรศึกษาเปรียบเทียบให้เข้าใจถึงความแตกต่างก่อนตัดสินใจ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพและคุ้มค่าสูงสุด 1 ปี

สิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับระ บบ On Grid และ Off Grid

  • ระ บบ On Grid และ Off Grid ใช้ระ บบแปลงไฟฟ้า (Inverter) ที่แตกต่างกัน
  • ระ บบ On Grid สามารถขายไฟฟ้าคืนให้การไฟฟ้าได้ แต่ ออฟกริด ไม่สามารถทำได้
  • ระ บบ ออนกริด ไม่สามารถใช้ไฟฟ้าได้เมื่อไฟดับ แต่ ออฟกริด มีไฟใช้ตลอดเวลา
  • ระ บบ ออฟกริด มีต้นทุนอุปกรณ์และเงินลงทุนที่สูงกว่า ออนกริด
  • ระ บบ ออนกริด ต้องจ่ายค่าไฟฟ้ารายเดือน แต่ ออฟกริด ไม่ต้องจ่าย 3

ความหมายและภาพรวมของระ บบ ออนกริด และ ออฟกริด

เมื่อกล่าวถึงการใช้พลังงานแสงอาทิตย์หรือโซลาร์เซลล์เพื่อผลิตไฟฟ้า เรามักจะพบระ บบสองแบบที่แตกต่างกันคือ ระ บบ พลังงานทดแทน แบบ ระ บบรวม (ออนกริด) และ ระ บบแยก (ออฟกริด) ซึ่งแต่ละระ บบมีลักษณะการใช้งานที่เฉพาะตัว โซล่าเซลล์

ระ บบ ออนกริด คืออะไร

ระ บบ พลังงานหมุนเวียน แบบ ออนกริด คือระ บบที่มีการเชื่อมต่อกับระ บบสายส่งของการไฟฟ้า โดยสามารถนำไฟฟ้าที่ผลิตจากแผงโซลาร์เซลล์มาใช้งานหรือจ่ายไฟให้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านได้ และยังสามารถส่งไฟฟ้าที่เหลือจากการใช้งานกลับคืนให้กับการไฟฟ้าได้อีกด้วย

ระ บบ ออฟกริด คืออะไร

ในขณะที่ระ บบ พลังงานทดแทน แบบ ออฟกริด คือระ บบที่ไม่ได้เชื่อมต่อกับระ บบสายส่งของการไฟฟ้า ระ บบจะผลิตไฟฟ้าจากแผงโซลาร์เซลล์และจัดเก็บในแบตเตอรี่ เพื่อนำมาใช้งานเองภายในอาคาร โดยไม่สามารถขายไฟฟ้าคืนให้กับการไฟฟ้าได้ ระ บบ ออฟกริด จึงเหมาะสำหรับพื้นที่ที่ไม่มีไฟฟ้าเข้าถึงหรือต้องการความเป็นอิสระจากระ บบการไฟฟ้า

“การเข้าใจความหมายและคุณสมบัติของระ บบ ออนกริด และ ออฟกริด จะช่วยให้เราเลือกใช้ระ บบที่เหมาะสมกับความต้องการและสถานที่ใช้งานมากที่สุด” – ผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงานแสงอาทิตย์

ระ บบ ออนกริด และ ออฟกริด ใช้ระ บบแปลงไฟฟ้า (Inverter) ต่างกัน

ระ บบ ออนกริด และ ออฟกริด แม้จะมีเป้าหมายเดียวกันในการผลิตและใช้พลังงานแสงอาทิตย์ แต่ระ บบการทำงานของอุปกรณ์แปลงไฟฟ้า (Inverter) กลับแตกต่างกันอย่างชัดเจน เนื่องจากความแตกต่างของวัตถุประสงค์และความต้องการในการนำไฟฟ้าไปใช้งาน

ระ บบ ออนกริด จะใช้ Grid Tie Inverter เพื่อแปลงไฟฟ้ากระแสตรง (DC) ที่ผลิตได้จากแผงโซลาร์เซลล์ให้เป็นกระแสสลับ (AC) ที่เข้ากับระ บบของการไฟฟ้า และสามารถส่งกระแสไฟฟ้าส่วนเกินกลับเข้าสู่ระ บบของการไฟฟ้าได้ ในขณะที่ระ บบ ออฟกริด จะใช้ ออฟกริด Inverter เพื่อแปลงไฟฟ้ากระแสตรง (DC) จากแผงโซลาร์เซลล์ให้เป็นกระแสสลับ (AC) สำหรับใช้งานภายในระ บบของตัวเองเท่านั้น โดยไม่สามารถเชื่อมต่อกับระ บบสายส่งของการไฟฟ้าได้

ระ บบ ออนกริด ระ บบ ออฟกริด
ใช้ Grid Tie Inverter ในการแปลงไฟฟ้ากระแสตรง (DC) เป็นกระแสสลับ (AC) ที่เข้ากับระ บบของการไฟฟ้า ใช้ ออฟกริด Inverter ในการแปลงไฟฟ้ากระแสตรง (DC) เป็นกระแสสลับ (AC) สำหรับใช้งานภายในระ บบตัวเองเท่านั้น
สามารถส่งกระแสไฟฟ้าส่วนเกินกลับเข้าสู่ระ บบของการไฟฟ้าได้ ไม่สามารถเชื่อมต่อกับระ บบสายส่งของการไฟฟ้าได้

จากตารางเปรียบเทียบ เราจะเห็นได้ว่า ความแตกต่างอย่างหนึ่งระหว่างระ บบ ออนกริด และ ออฟกริด คือการใช้ Inverter ที่มีคุณสมบัติเฉพาะตามความต้องการของแต่ละระ บบ ซึ่งส่งผลต่อสมรรถนะและการทำงานที่แตกต่างกัน

“ความเข้าใจในความแตกต่างของอุปกรณ์แปลงไฟฟ้า (Inverter) ที่ใช้ในระ บบ ออนกริด และ ออฟกริด นั้น เป็นสิ่งสำคัญต่อการออกแบบและติดตั้งระ บบที่มีประสิทธิภาพและตรงตามความต้องการของผู้ใช้งาน”

ระ บบ ออนกริด หากมีกระแสไฟฟ้าเกินสามารถขายคืนได้ แต่ ออฟกริด ไม่สามารถทำได้

การประยุกต์ใช้พลังงานทดแทนและพลังงานหมุนเวียน เช่น ระ บบโซลาร์เซลล์ในปัจจุบัน นับเป็นทางเลือกที่สำคัญสำหรับผู้บริโภคในการลดการพึ่งพาแหล่งพลังงานฟอสซิล และช่วยลดปัญหามลพิษต่างๆ ที่เกิดขึ้น ซึ่งระ บบ ออนกริด และ ออฟกริด มีความแตกต่างที่น่าสนใจในเรื่องของการขายไฟฟ้าคืนให้กับการไฟฟ้า และการจัดเก็บพลังงานส่วนเกิน

การขายไฟคืนให้การไฟฟ้า

ระ บบ ออนกริด เป็นระ บบที่สามารถเชื่อมต่อกับระ บบสายส่งของการไฟฟ้าได้ ทำให้หากผลิตกระแสไฟฟ้าจากแผงโซลาร์เซลล์ได้เกินกว่าความต้องการใช้งานภายในอาคาร กระแสไฟฟ้าส่วนเกินนี้สามารถขายคืนให้กับการไฟฟ้าได้ เป็นการสร้างรายได้เสริมอีกช่องทางหนึ่ง แต่สำหรับระ บบ ออฟกริด นั้น จะเป็นระ บบผลิตไฟฟ้าเพื่อใช้งานภายในอาคารเท่านั้น โดยจะไม่มีการขายไฟฟ้าคืนให้กับการไฟฟ้า

การจัดเก็บกระแสไฟฟ้าส่วนเกินในแบตเตอรี่

เนื่องจากระ บบ ออฟกริด เป็นระ บบผลิตไฟฟ้าเพื่อใช้งานภายในอาคารเอง หากไฟฟ้าที่ผลิตได้มีปริมาณเกินกว่าความต้องการใช้งาน ระ บบก็จะทำการจัดเก็บกระแสไฟฟ้าส่วนเกินนี้ไว้ในระ บบแบตเตอรี่ เพื่อนำมาใช้ในช่วงเวลาที่ต้องการ ซึ่งแตกต่างจากระ บบ ออนกริด ที่สามารถขายไฟฟ้าส่วนเกินให้กับทางการไฟฟ้าได้

ดังนั้น จึงเห็นได้ว่าระ บบ ออนกริด และ ออฟกริด มีความแตกต่างกันในด้านการใช้ประโยชน์จากกระแสไฟฟ้าที่ผลิตได้เกิน ซึ่งผู้ใช้งานจำเป็นต้องพิจารณาว่าระ บบใดจะเหมาะสมกับการใช้งานในแต่ละบ้านมากที่สุด

ระ บบ ออนกริด ไม่สามารถใช้ไฟฟ้าเมื่อไฟดับได้ ส่วน ออฟกริด มีไฟใช้ตลอดในช่วงกลางวัน

หนึ่งในความแตกต่างที่โดดเด่นระหว่างระ บบ ระ บบรวม (ออนกริด) และ ระ บบแยก (ออฟกริด) คือเรื่องการใช้ไฟฟ้าเมื่อเกิดไฟฟ้าดับ ระ บบ ออนกริด ถูกออกแบบมาให้สอดคล้องกับระ บบจ่ายไฟฟ้าของการไฟฟ้า ดังนั้นเมื่อเกิดไฟฟ้าดับ ระ บบ ออนกริด จะมีการหยุดทำงานตามไปด้วย เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้น ในขณะที่ระ บบ ออฟกริด มีความสามารถในการจัดเก็บพลังงานไฟฟ้าไว้ในแบตเตอรี่ ทำให้สามารถใช้ไฟฟ้าจากโซลาร์เซลล์ได้ตลอดช่วงกลางวัน แม้ว่าจะเกิดไฟฟ้าดับ เป็นการเพิ่ม ประสิทธิภาพ และความมั่นคงในการใช้งานไฟฟ้าให้กับผู้ใช้อย่างแท้จริง

“ระ บบ ออฟกริด จะสามารถใช้ไฟฟ้าจากแผงโซลาร์เซลล์ได้ตลอดในช่วงกลางวัน และมีไฟฟ้าสะสมในแบตเตอรี่ไว้ใช้งานได้ แม้เกิดไฟฟ้าดับ”

ด้วยคุณสมบัตินี้ ระ บบ ออฟกริด จึงเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการความมั่นคงในการใช้ไฟฟ้า แม้ในช่วงที่เกิดไฟฟ้าดับ โดยไม่ต้องพึ่งพาการจ่ายไฟฟ้าจากการไฟฟ้า ซึ่งเป็นจุดแข็งอย่างหนึ่งของระ บบ ออฟกริด เมื่อเทียบกับระ บบ ออนกริด

ไฟดับ

อย่างไรก็ตาม การใช้งาน ออฟกริด จำเป็นต้องมีการติดตั้งอุปกรณ์เพิ่มเติม เช่น แบตเตอรี่เพื่อเก็บพลังงานไฟฟ้าสำรอง ซึ่งเป็นต้นทุนเพิ่มที่ผู้ใช้จำเป็นต้องลงทุนเพิ่มเติม เมื่อเทียบกับระ บบ ออนกริด ที่ไม่จำเป็นต้องมีอุปกรณ์เหล่านี้ ซึ่งเป็นข้อแตกต่างอีกประการหนึ่งที่ผู้ใช้ต้องพิจารณาเลือกระ บบที่เหมาะสมกับความต้องการและงบประมาณของตน

ระ บบ ออนกริด กับ ออฟกริด ต่างกันอย่างไร

เมื่อเปรียบเทียบระหว่างระ บบ ระ บบรวม (ออนกริด) และ ระ บบแยก (ออฟกริด) จะพบว่ามีความแตกต่างกันในหลายๆ ด้าน โดยไม่เพียงแค่การใช้งานอุปกรณ์เปลี่ยนกระแสไฟฟ้า (Inverter) เท่านั้น แต่ยังรวมถึงความสามารถในการขายไฟฟ้าคืนให้การไฟฟ้า การใช้งานเมื่อเกิดไฟฟ้าดับ ตลอดจนต้นทุนค่าอุปกรณ์และเงินลงทุนรวมถึงค่าไฟฟ้ารายเดือนที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน

ในส่วนของระบบ ระบบรวม (ออนกริด) นั้น หากมีกระแสไฟฟ้าเกินความต้องการใช้งาน ก็สามารถขายคืนให้กับการไฟฟ้าได้ ในขณะที่ระบบ ระบบแยก (ออฟกริด) จะไม่มีความสามารถดังกล่าว แต่จะสามารถจัดเก็บกระแสไฟฟ้าส่วนเกินไว้ในแบตเตอรี่เพื่อใช้งานในภายหลัง

นอกจากนี้ระ บบระบบรวม (ออนกริด) ก็ไม่สามารถใช้ไฟฟ้าได้เมื่อเกิดไฟฟ้าดับ ในขณะที่ระบบ ระบบแยก (ออฟกริด) จะมีไฟฟ้าใช้ต่อเนื่องตลอดช่วงกลางวัน โดยจะเก็บพลังงานสะสมเอาไว้ในแบตเตอรี่

ดังนั้น ผู้ใช้งานจึงควรศึกษาข้อมูลให้ละเอียดและเลือกใช้ระบบที่เหมาะสมกับความต้องการและสถานที่ตั้งของตนเอง เพื่อให้ได้รับประโยชน์สูงสุด

“การเลือกใช้ระบบ ระบบรวม (ออนกริด) หรือ ระบบแยก (ออฟกริด) ที่เหมาะสมจะส่งผลต่อประสิทธิภาพและความคุ้มค่าในการใช้งานอย่างมาก ผู้ใช้จึงควรพิจารณาปัจจัยต่างๆ อย่างรอบคอบ”

ออฟกริด มีต้นทุนอุปกรณ์ และเงินลงทุนในระบบที่สูงกว่า ออนกริด

เมื่อพิจารณาระบบไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ระ บบออฟ กริด (ออฟกริด) และระบบ ออน กริด (ออนกริด) นั้นมีความแตกต่างที่สำคัญหลายประการ โดยเฉพาะเรื่องของต้นทุนและเงินลงทุนในการติดตั้งและดำเนินการ

ระบบ ออฟกริด จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์หลายชิ้น เช่น แผงโซลาร์เซลล์, Inverter, Solar Charger, แบตเตอรี่ เพื่อเชื่อมต่อเป็นระบบ ซึ่งส่งผลให้ต้นทุนรวมและเงินลงทุนในการติดตั้งระบบ ออฟกริด สูงกว่าระบบ ออนกริด ที่มีความซับซ้อนน้อยกว่า นอกจากนี้ ยังต้องคำนึงถึงค่าใช้จ่ายทั้งในการออกแบบ ติดตั้ง และดูแลรักษาระบบ ออฟกริด ด้วย

รายการ ระบบ ออนกริด ระบบ ออฟกริด
ต้นทุนอุปกรณ์ ต่ำ สูง
เงินลงทุน ต่ำ สูง
ความซับซ้อน น้อย มาก
ค่าใช้จ่ายในการดูแล ต่ำ สูง

ดังนั้น หากเปรียบเทียบกันแล้วระ บบออฟกริด มีต้นทุนและเงินลงทุนที่สูงกว่าระบบ ออนกริด อย่างชัดเจน ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้ใช้งานจำเป็นต้องคำนึงถึงเมื่อตัดสินใจเลือกใช้ระบบไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่เหมาะสมกับความต้องการและสถานการณ์ของตนเอง

ระบบแยก

“หากเปรียบเทียบกันแล้วระ บบออฟกริด มีต้นทุนและเงินลงทุนที่สูงกว่าระบบ ออนกริด อย่างชัดเจน”

ระบบ ออนกริด ต้องจ่ายค่าไฟฟ้ารายเดือน แต่ ออฟกริด ไม่ต้องจ่าย

แม้ว่าระบบ ออนกริด จะสามารถผลิตไฟฟ้าจากแผงโซลาร์เซลล์มาใช้งานภายในบ้านได้เอง แต่ก็ยังคงต้องพึ่งพากระแสไฟฟ้าจากระบบสายส่งของการไฟฟ้า ซึ่งหมายความว่าผู้ใช้ยังคงต้องจ่ายค่าไฟฟ้ารายเดือนเช่นเดิม แม้จะได้รับไฟฟ้าจากการผลิตด้วยระบบ ออนกริด เองก็ตาม ขณะที่ระบบ ออฟกริด นั้น เป็นระบบที่ไม่มีการเชื่อมต่อกับระบบไฟฟ้าของการไฟฟ้า จึงไม่ต้องมีค่าใช้จ่ายค่าไฟฟ้ารายเดือน

ในกรณีของระบบ ออนกริด ผู้ใช้สามารถลดค่าไฟฟ้ารายเดือนลงได้ด้วยการนำไฟฟ้าที่ผลิตจากโซลาร์เซลล์มาเสริมใช้งาน แต่ก็ยังต้องพึ่งพาระบบของการไฟฟ้า และต้องจ่ายค่าไฟฟ้าในส่วนที่ไม่เพียงพอจากโซลาร์เซลล์ ซึ่งแตกต่างจากระบบ ออฟกริด ที่ไม่ต้องพึ่งพาระบบของการไฟฟ้า และไม่มีค่าใช้จ่ายค่าไฟฟ้ารายเดือน

ดังนั้น หากต้องการลดค่าใช้จ่ายค่าไฟฟ้ารายเดือนอย่างมีประสิทธิภาพ การเลือกใช้ระบบ ออฟกริด อาจเป็นทางเลือกที่น่าสนใจมากกว่า แม้จะมีต้นทุนการติดตั้งเริ่มต้นที่สูงกว่าก็ตาม

FAQ

ระบบ ออนกริด และ ออฟกริด มีความแตกต่างกันอย่างไร?

ระบบ ออนกริด และ ออฟกริด มีความแตกต่างกันในหลากหลายด้าน เช่น การใช้อุปกรณ์แปลงไฟฟ้า (Inverter), ความสามารถในการขายไฟฟ้าคืนให้การไฟฟ้า, การใช้งานเมื่อเกิดไฟฟ้าดับ, ต้นทุนค่าอุปกรณ์และเงินลงทุน รวมถึงค่าใช้จ่ายค่าไฟฟ้ารายเดือน เป็นต้น ซึ่งแต่ละระบบจะมีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกัน ผู้ใช้งานจึงควรศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจเลือกใช้ระบบใด ให้เหมาะสมกับความต้องการและสถานที่ตั้งของตนเอง

ระบบ ออนกริด คืออะไร?

ระบบ ออนกริด คือระบบ solar cell ที่มีการเชื่อมต่อกับระบบสายส่งของการไฟฟ้า โดยสามารถนำไฟฟ้าที่ผลิตจากแผงโซลาร์เซลล์มาใช้งานหรือจ่ายไฟให้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านได้ และยังสามารถส่งไฟฟ้าที่เหลือจากการใช้งานกลับคืนให้กับการไฟฟ้าได้อีกด้วย

ระบบ ออฟกริด คืออะไร?

ระบบ ออฟกริด คือระบบ solar cell ที่ไม่ได้เชื่อมต่อกับระบบสายส่งของการไฟฟ้า ระบบจะผลิตไฟฟ้าจากแผงโซลาร์เซลล์และจัดเก็บในแบตเตอรี่ เพื่อนำมาใช้งานเองภายในอาคาร โดยไม่สามารถขายไฟฟ้าคืนให้กับการไฟฟ้าได้ระ บบออฟกริด จึงเหมาะสำหรับพื้นที่ที่ไม่มีไฟฟ้าเข้าถึงหรือต้องการความเป็นอิสระจากระบบการไฟฟ้า

ระบบ ออนกริด และ ออฟกริด แตกต่างกันในการใช้ระบบแปลงไฟฟ้า (Inverter) อย่างไร?

ระบบ On Grid จะใช้ Grid Tie Inverter เพื่อแปลงไฟฟ้ากระแสตรง (DC) จากแผงโซลาร์เซลล์ให้เป็นกระแสสลับ (AC) สำหรับใช้งานภายในบ้านและเชื่อมต่อกับระบบสายส่งของการไฟฟ้า ในขณะที่ระบบ Off Grid จะใช้ Off Grid Inverter แปลงกระแสไฟฟ้าเพื่อใช้งานภายในระบบตัวเองโดยเฉพาะ และไม่สามารถเชื่อมต่อกับระบบการไฟฟ้าได้

ระบบ On Grid และ Off Grid มีความแตกต่างในการใช้กระแสไฟฟ้าส่วนเกินอย่างไร?

ระบบ On Grid สามารถขายไฟฟ้าส่วนเกินให้กับการไฟฟ้าได้ ซึ่งเป็นการสร้างรายได้เพิ่มอีกช่องทาง ในขณะที่ระบบ Off Grid จะเป็นระบบการผลิตไฟฟ้าเพื่อใช้งานภายในอาคารเอง หรือจัดเก็บไว้ในระบบแบตเตอรี่ แทนที่จะขายคืนให้การไฟฟ้า

ระบบ On Grid และ Off Grid มีความแตกต่างกันในการใช้งานช่วงไฟฟ้าดับอย่างไร?

ระบบ On Grid จะไม่สามารถใช้ไฟฟ้าจากแผงโซลาร์เซลล์ได้ในช่วงที่ไฟฟ้าดับ เนื่องจากถูกออกแบบมาเพื่อให้ระบบดับไปพร้อมกับไฟฟ้าจากการไฟฟ้า เพื่อความปลอดภัย ในขณะที่ระบบ Off Grid จะสามารถใช้ไฟฟ้าจากแผงโซลาร์เซลล์ได้ตลอดในช่วงกลางวัน และมีไฟฟ้าสะสมในแบตเตอรี่ไว้ใช้งานได้

ต้นทุนและค่าใช้จ่ายระหว่างระบบ On Grid และ Off Grid มีความแตกต่างกันอย่างไร?

ระบบ Off Grid จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์หลายชิ้น ทำให้ต้นทุนรวมและเงินลงทุนในการติดตั้งระบบ Off Grid สูงกว่าระบบ On Grid ที่มีความซับซ้อนน้อยกว่า นอกจากนี้ระ บบOn Grid ยังคงต้องมีค่าใช้จ่ายค่าไฟฟ้ารายเดือน ในขณะที่ระบบ Off Grid เป็นระบบที่ไม่มีการเชื่อมต่อกับระบบไฟฟ้าของการไฟฟ้า จึงไม่ต้องมีค่าใช้จ่ายค่าไฟฟ้ารายเดือน

ลิงก์ที่มา

Leave a Reply